หมวดหลัก > พุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ การบำเพ็ญบารมี

คุณรู้ไหม พระพุทธโคดม เคยเกิดเป็นผู้หญิง

(1/1)

Kuekkonk:
หลังจากพระโพธิสัตว์โคดม ได้ปรารถนาขนสัตว์โลกข้ามวัฏฏสงสาร กล่าวคือเมื่อ 20 อสงไขยแสนมหากัป ล่วงมา ในสมัยนั้นแทบไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้นานมาก ทำให้ท้าวมหาพหรมเกิดวิตกว่า จะเกิดความมืดของจักรวาลไปอีกนานแสนนาน จึงมองหาผู้ที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ จึงได้พบพระโพธิสัตว์โคดม ซึ่งยังไม่เคยปราถนาพุทธภูมิ กำลังแบกมารดาไว้บนบ่าว่ายน้ำในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่อย่างไม่ย้อท้อ เมื่อเห็นดังนั้นจึงเข้าดลใจให้ปรารถนาว่า หากเราสามารถพามารดาข้ามมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่นี้ผ่านไปได้ จะขอขนสัตว์ข้ามไปด้วย
หลังจากชาตินั้นแล้วพระโพธิสัตว์โคดม ก็ได้มาเกิดเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ร่วมชาติกับพระศรีอาริยะ ที่เกิดมาเป็นควาญช้าง และพระมหากัสสปะเถระ ที่เกิดมาเป็นพญาช้างเผือก โดยในชาตินี้พระศรีอารยะได้พบพญาช้างในป่าแล้วมาฝึกด้วยมนต์คาถาที่ตนเองได้เรียนมาเป็นอย่างดีก่อนถวายให้พระโพธิสัตว์โคดมทีเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ โดยพระองค์ใช้เป็นช้างทรง และอยู่วันหนึ่งโขลงช้างในป่าก็วิ่งเข้ามาหาอาหารในเมืองแล้วหนีจากไป พระมหาจักรพรรดิ์ก็ได้ขี่ช้างมาตรวจความเสียหาย ช้างทรงได้กลิ่นมูลช้าง ตัวเมียที่ถ่ายทิ้งก็เกิดอาการติดสัตว์วิ่งเข้าป่าเพื่อหาช้างตัวเมียสมสู่ด้วย ทำให้กองทัพที่ติดตามมาวิ่งตามไม่ทันเหลือเพียงพระมหาจักรพรรดิ์เพียงพระองค์เดียวบนคอช้าง จึงต้องเกาะกิ่งไม้ในป่า (มีต่อนะ)

Kuekkonk:
เมื่อพระองค์กลับมาก็ให้เรียกควาญช้างเข้าพบ หมายจะประหารเพราะเอาช้างที่ไม่ดีมาให้ทรง ควาญ(พระศรีอารยะ)เมื่อรู้ว่าจะโดนประหารจึงกล่าวว่าธรรมดาของสัตว์โลกที่ต้องอยู่ใต้ของกิเลส ไฟใดจะร้อนเท่าไฟกิเลสไม่มี ช้างตัวนี้ก็หนีไปเพราะไฟกิเลสอยากสมสู่กับตัวเมียครอบงำ ไม่เกิน7 วันก็กลับมา พระมหาจักวพรรดิ์เห็นว่าไงๆ ก็ต้องโดนประหารอยู่แล้วรออีก 7 วันก็คงไม่เป็นไร จึงรอ หลังจากครบ7 วันช้างเผือกก็กลับมาจริงดังคำควาญช้างว่า พระมหาจักรพรรดิ์จึงถามว่ามนต์ของควาญช้างนี้สามารถสะกดช้างได้จริงหรือ ควาญช้างว่าในโลกนี้นอกจากไฟราคะแล้ว ไม่มีช้างตัวใดจะกล้าขัดขืนมนต์ของควาญช้างได้ ว่าแล้วจึงสั่งให้พญาช้างเอางวงจับก้อนเหล็กแดงในกองไฟขึ้นมาถือไว้ ด้วยความกลัวช้างจึงต้องทำตาม พระมหาจักรพรรดิ์เห็นดังนั้นก็ได้ดำริในใจว่า ขนาดไฟของเหล็กแดงน่ากลัวช้างยังกอดไว้ได้เพราะอำนาจควาญ แต่ช้างโดนกิเลสบังคับได้แสดงว่าไฟแห่งกิเลสนี้ช่างน่ากลัวกว่าไฟของเหล็กแกงหลายเท่านัก เห็นดังน้ันจึงส่ังให้ควาญช้างหยุดวางเหล็กแดงลง แต่ด้วยความร้อนและความทรมานช้างจึงต้องตายต่อมา กรรมครั้งนี้จึงทำให้พระศรีอารยะ ต้องรับผลเมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว พระจะนำสรีระของพระมหากัสสปเถระมาวางไว้บนมือเปล่าแล้วไฟลุกบนฝ่ามือพระองค์ (มีต่อ)

Kuekkonk:
หลังจากชาติพระโพธิสัตว์โคดมก็เวียนไหว้ตายเกิด จนถึงพระพุทธโบราณทีปังกร (คนละองค์กับที่ทำนายพระโพธิ์สัตว์เป็นนิยตโพธิสัตว์ชาติแรก) พระโพธิสัตว์เกิดมาเป็นน้องสาวพระพุทธเจ้า ในชาตินั้น และพระโพธิสัตว์ปัจฉิมทีปังกร(เป็นพระพุทธเจ้าที่ทำนายพระพุทธโคดม) เกิดมาเป็นภิกษุในพุทธศาสนา และจะเอาน้ำมันมาจุดตระเกียงรอบกุฏิพระพุทธเจ้า มีวันหนึ่งไปบิณฑบาตรขอน้ำมันแต่ก็ไม่มีใครถวายเลยจนมาในพระราชวัง ความได้ยินถึงพระโพธิสัตว์โคดมซึ่งเป็นน้องสาวพระพุทธเจ้า ด้วยความรักและเคารพต่อพี่ชาย อีกทั้งพระนางก็ปรารถนาพุทธภูมิ จึงหาน้ำมันในวัง จึงได้น้ำมันเมล็ดผักกาดซึ่งเป็นของดีถวายพระภิกษุฑีปังกรโพธิสัตว์เต็มบาตร และฝากพระภิกษุหนุ่มถามพระพุทธองค์ว่าตนเองจะมีโอกาสเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลเหมือนพระพี่หรือไม่ พระภิกษุรับอาสา พอจุดไฟรอบพระกุฏิแล้ว ด้วยใจที่อิ่มเอมจึงเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อทูลขอคำพยากร โดยพระองค์ไม่พยากรเจ้าหญิงโพธิสัตว์เนื่องจากเป็นหญิงและบารมียังไม่เต็มแต่ผู้ที่จะพยากรคือ พระภิกษุหนุ่มโพธิสัตว์ซึ่งจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตต่อไปโดยจะมีพระนามเหมือนพระองค์เองคือฑีปังกร

Webmaster:
อนุโมทนากับความรู้ดีๆครับ เรื่องนี้เคยได้อ่านมาบ้างเหมือนกัน
ขอขอบคุณที่ได้นำมาถ่ายทอดครับ

ธรรมรักษา

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

Go to full version