เว็บพุทธภูมิ: พุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ การบำเพ็ญบารมี



ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ที่จะฝึกอิทธิฤิทธิ์อภิญญาให้เกิดขึ้นแก่ตนได้ต้องมีคุณธรรมตามนี้  (อ่าน 15913 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

tutong

  • บุคคลทั่วไป
ผมได้อ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(วัดท่าซุง)
ท่านกล่าวไว้ว่าบุคคลที่จะมีอภิญญาได้ต้องมี อิทธิบาท๔,บารมี๑๐ครบถ้วน พร้อมกับมี จรณะ ๑๕
และได้ฌาณ๔ในกสิณ๑๐ ตามนี้แต่ละหัวข้อธรรมมีอะไรบ้างและอย่างไรจะนำมากล่าวในที่นี้ภายหลัง
 แต่สิ่งที่ผมอยากให้ท่านทั้งหลาย ทำให้ได้ก่อนในอันดับแรกคือรักษาศีล(ตามแต่ใจชอบและกาลเทศะไม่ว่าจะเป็นศีล๕หรือศีล๘สำหรับฆาราวาสศีล๑๐,ศีล๒๒๗สำหรับสามเณรและพระภิกษุ)และระงับนิวรณ์๕ประการให้ได้ กรรมฐานที่เป็นพื้นฐานของกรรมฐานทั้ง๔๐กองคือ
อานาปานุสสติ(การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก)โดยต้องกำหนดรู้ลมหายใจสามฐานให้ได้ฤิทธิ์จึงจะเกิด
กำหนดลมหายใจสามฐานยังไง?การกำหนดลมหายใจสามฐานคือฐานที่๑หายใจเข้าลมกระทบจมูกหายใจออกลมกระทบจมูก ฐานที่สองหายใจเข้าลมกระทบจมูกและยอดอกหายใจออกลมกระทบยอดอกและจมูก ฐานที่สามลมหายใจเข้ากระทบจมูกกระทบยอดอกและศูนย์เหนือสะดือหายใจออกลมผ่านศุนย์เหนือสะดือผ่านยอดอกและผ่านจมูก คราวหลังจะกล่าวถึงคุณธรรมต่างๆที่ทำให้เกิดอภิญญานะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 04, 2013, 08:37:16 PM โดย tutong »

tutong

  • บุคคลทั่วไป
 เริ่มต้นด้วย อิทธิบาท๔   - ฉันทะ มีความพอใจ
                            - วิริยะ  พากเพียรทำลายอุปสรรคไม่ท้อถอย
                            - จิตตะ สนใจในสิ่งนั้นไม่วางมือ
                            - วิมังสา ใช้ปัญญาพิจารณาให้เข้าใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2013, 08:59:01 AM โดย tutong »

tutong

  • บุคคลทั่วไป
ระงับนิวรณ์๕
1.เห็นโทษของกามฉันทะ ความมั่วสุมในกามารมณ์ว่าเป็นทุกข์เป็นภัยอย่างยิ่ง
2.เห็นโทษของการจองล้างจองผลาญ เพราะการพยาบาทมาดร้ายซึ่งกันเเละกัน เป็นเสมือนไฟคอยผลาญความสุข
3.คอยกำจัดความง่วงเหงาห้าวนอน เมื่อขณะปฏิบัติสมณธรรม
4.คอยควบคุมอารมณ์ไม่ให้ฟุ้งส่าน ออกนอกลู่นอกทางเมื่อขณะภาวนา
5.ตัดความสงสัยในมรรคผลเสีย โดยคำนึงถึงว่าผลของการปฏิบัติ มีแน่นอนถ้าเราทำถึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2013, 08:44:29 PM โดย tutong »

tutong

  • บุคคลทั่วไป
                                           บารมี๑๐
๑.ทานบารมี  มีกำลังใจพร้อมจะให้เสมอไม่ต้องการสิ่งของหรือคำชมตอบแทน
๒.ศีลบารมี   มีกำลังใจรักษาศีลยิ่งกว่าชีวิต
๓.เนกขัมมบารมี พยายามระงับนิวรณ์ ในเบื้องต้นป้องกันความวุ่นวายของจิต
๔.ปัญญาบารมี  พิจารณาว่าการเกิดเป็นต้นเหตุของทุกข์ยอมรับนับถือกฏความเป็นจริง
๕.วิริยะบารมี   มีกำลังใจต่อสู้อุปสรรคไม่ยอมเเพ้แม้ตายก็ยอม
๖.ขันติบารมี   อดทนต่ออุปสรรค สู้ให้ถึงที่สุดไม่ถอยหลัง
๗.สัจจบารมี   ทรงความจริงไว้ให้เป็นปกติ ตั้งใจว่าจะทำอะไรทำอย่างนั้นไม่ยอมละ
๘.อธิษฐานบารมี  ตั้งใจว่าเราจะทำทุกอย่างเพื่อพระนิพพาน
๙.เมตตาบารมี   ตั้งใจว่าจะเมตตาคำว่าศัตรูจะไม่มีสำหรับเรา
๑๐.อุเบกขาบารมี เฉยต่ออุปสรรค

tutong

  • บุคคลทั่วไป
                                                   จรณะ ๑๕
๑.สีลสัมปทา  ถึงพร้อมด้วยศีล
๒.อินทรียสังวร สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้อยู่ในระบอบของธรรมหมด อย่าไปสนใจกับอะไรทั้งหมด
๓.โภชเนมัตตัญญุตา  รู้จักประมาณในการกินอาหารแต่พอสมควร คือพิจารณาอาหาเรปฏิกูลสัญญา ไม่เมาในรสอาหาร ไม่โลภในอาหาร
๔.ชาคริยานุโยค ประกอบความเพียรของผู้ตื่นอยู่
๕.ศรัทธา ความเชื่อ ใช้ปัญญาพิจารณาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นจริง รู้จริง เห็นแน่นอน มีเหตุมีผล เราเชื่อ
๖.หิริ อายความชั่วไว้เสมอ
๗.โอตตัปปะ เกรงกลัวผลของความชั่ว ผลของความผิด
๘.พาหุสัจจะ  เป็นผู้ได้รับฟังมาก ปฏิบัติดีด้วยฟังมาแล้วด้วยดี ปฏิบัติดีด้วย
๙.วิริยะ เพียรทำลายความชั่วให้พินาศไป เพียรสร้างความดีให้มันเกิดขึ้น
๑๐.สติ ระลึกได้เสมอในด้านอริยสัจ ในมหาสติปัฏฐานสูตร ในกรรมฐาน๔๐ เอามาตั้งไว้ในอารมณ์ใจตลอดเวลาตั้งเเต่ลืมตารู้สึกตื่นนอน กว่าจะหลับ
๑๑. ปัญญา เห็นว่าทุกอย่างในโลก มันจะมีสภาวะเกิดขึ้นมายังไงก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
๑๒.ปฐมฌาน ฌานที่หนึ่ง ทำให้เกิดขึ้นเป็นประจำ
๑๓.ทุติยฌาน ฌานที่สอง ทำให้เกิดขึ้นเป็นประจำ
๑๔.ตติยฌาน ฌานที่สาม ทำให้เกิดขึ้นเป็นประจำ
๑๕.จตุตถฌาน ฌานที่สี่ ทำให้เกิดขึ้นเป็นประจำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2014, 02:24:21 AM โดย tutong »

tutong

  • บุคคลทั่วไป
                                           กสิณ๑๐
๑.ปฐวีกสิณ มีดินเป็นพื้นฐาน เพ่งดิน ภาวนาว่า ปฐวีกสิณัง
๒.อาโปกสิณ มีน้ำเป็นพื้นฐาน เพ่งน้ำ ภาวนาว่า อาโปกสิณัง
๓.เตโชกสิณ  มีไฟเป็นพื้นฐาน เพ่งไฟ ภาวนาว่า เตโชกสิณัง
๔.วาโยกสิณ  มีลมเป็นพื้นฐาน เพ่งลม ภาวนาว่า วาโยกสิณัง
๕.นีลกสิณ   มีสีเขียวเป็นพื้นฐาน เพ่งสีเขียว ภาวนาว่า นีลกสิณัง
๖.ปีตกสิณ  มีสีเหลืองเป็นพื้นฐาน เพ่งสีเหลือง ภาวนาว่า ปีตกสิณัง
๗.โลหิตกสิณ มีสีแดงเป็นพื้นฐาน เพ่งสีแดง ภาวนาว่า โลหิตกสิณัง
๘.อากาศกสิณ มีอากาศ(ความว่าง)เป็นพื้นฐาน เพ่งอากาศ ภาวนาว่า อากาศกสิณัง
๙.โอทาตกสิณ มีสีขาวเป็นพื้นฐาน  เพ่งสีขาว ภาวนาว่า โอทาตกสิณัง
๑๐.อาโลกสิณ  มีแสงสว่างเป็นพื้นฐาน เพ่งเเสงสว่าง ภาวนาว่า อาโลกสิณัง
 กสิณทั้งสิบนี้วิธีฝึกให้หาอ่านในตำราของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤๅษีลิงดำ)จะเข้าใจได้ดีขึ้นนะครับ
ผมเป็นเป็นเพียงลูกศิษย์ปลายแถวที่หวังจะฝึกกรรมฐานให้ได้อภิญญา๕ในชาตินี้ครับเจริญในธรรมนะครับทุกท่าน

ออฟไลน์ Arthamaat

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 29
  • "พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
    • ดูรายละเอียด
อนุโมทนาด้วยครับ

ออฟไลน์ อภิญญา ความรู้ยิ่ง

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 3
  • ญาติธรรม
    • ดูรายละเอียด
อนุโมทนาสาธุยิ่งค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ