เว็บพุทธภูมิ: พุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ การบำเพ็ญบารมี



ผู้เขียน หัวข้อ: พระคาถามหาจักรพรรดิ และการสัพเพฯ แผ่บุญ  (อ่าน 8565 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Wisdom

  • สมาชิก
  • ***
  • กระทู้: 242
  • ใครจะใหญ่เกินกรรม
    • ดูรายละเอียด
พระคาถามหาจักรพรรดิ และการสัพเพฯ แผ่บุญ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2012, 01:13:21 PM »
ภาวนาบทมหาจักรพรรดิ

นะโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนญาณ

มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา

พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ

พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีธานัง วะรังคันธัง

สีวลี จะมหาเถรัง

อะหังวันทามิ ทูระโต

อะหังวันทามิ ธาตุโย

อะหังวันทามิ สัพพะโส

พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ


ถ้าจะให้ได้ผลเต็มที่ต้องภาวนาไตรสรณคมณ์และบทมหาจักรพรรดิ ตามกำลังวันทุกวัน เหรียญและพระผงดวงนี้ จึงจะเกิด  พุทธานุภาพโดยไม่มีประมาณ ที่เรียกว่า        ดวงเหนือดวง พลังเหนือพลัง
(อาทิตย์ 6, จันทร์  15, อังคาร  8, พุธ 17, พฤหัสบดี  19, ศุกร์ 21, เสาร์  10, )

บทสวดมหาจักรพรรดินี้  หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นผู้เรียบเรียงขึ้น เป็นการสวดบูชาพระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพาน ตลอดจนถึงพระธรรมเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอริยะสงฆ์ และพระสงฆ์สาวกทั้งมวล เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหม พระอริยเจ้าทั้งหลาย การสวดครั้งหนึ่งๆ เป็นการอัญเชิญกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิทุกๆพระองค์ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน รวมถึงกำลังแห่งพระโพธิญาณของพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย  ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอนาคต อาราธนาเข้าที่กาย ใจ จิต วิญญาณของผู้สวด

อานิสงค์การสวดบทพระบรมมหาจักรพรรดิ

บทนี้เป็นการสวดไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพานตลอดจนถึงพระธรรมเจ้าและพระโพธิสัตว์เจ้า พระอริยสงฆ์สาวกทั้งมวล ไหว้พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหมพระอริยะเจ้าทั้งหลาย การสวดครั้งหนึ่งเป็นการดึงกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิทุกๆพระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาร่วมดึงกำลังของพระมหาโพธิสัตว์เจ้า มารวมอาราธนาเข้าที่กายและใจ และรวมกำลังของพระโพธิญานโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีต
ถึง ปัจจุบัน และอนาคต

การสวดครั้งหนึ่งมีอานิสงค์แผ่ไปทั่วจักวาลสามแดนโลกธาตุ สามารถแผ่บญไปทั่วทุกสรรพสัตว์ตลอดจนเทวดาประจำตัวเรา ญาติมิตรเพื่อนฝูงครอบครัว เจ้ากรรมนายเวร และหากนำบทสวดนี้ไปสวดในนรกหรือแผ่ไปไฟนรกจะดับชั่วขณะ บทนี้เป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัว รวมถึงการอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อัญเชิญเข้าตัว เพื่อป้องกันภัย และสร้างมหาโชคมหาลาภ

อานิสงส์แก่ผู้สวดมีทั้งมหาบุญมหาลาภ เนื่องจากมีการกล่าวถึงพระสีวลี รวมถึงบทนี้มีพลังงานอย่างยิ่งในการเจริญพระกรรมฐาน หากนำไปสวดบริกรรมก่อนหรือระหว่างนั่งภาวนากรรมฐาน...จะทำให้การภาวนามีพุทธานุภาพมาคลุมและคุมการปฎิบัติของเรา  คลุมกายและจิตเราเป็นวิมานทิพย์ (ครอบวิมานให้ตัวเองหรือสวดอธิษฐานครอบคนอื่นก็ได้) หากสวดบทนี้สามารถอฐิษฐานเรื่องราวใดๆมีติดข้องใจไห้ได้ผ่านพ้นไปอย่างทะลุปรุโปร่ง กล่าวโดยสรุปได้ว่าคาถาจักรพรรดินี้ จากการเรียบเรียงถ้อยคำโดยหลวงปู่ดู่ ท่านก่อให้เกิด จักรพรรดิ กำลังจักรพรรดิขึ้นด้วยในบทสวด พระคาถาครอบจักรวาล


ปล.สำหรับนักปฎิบัติเบื้องต้นใช้คู่กับพระผงจักรพรรดิจะทำให้ก้าวหน้าเร็ว



พระคาถามหาจักรพรรดิก่อให้เกิดพุทธนิมิตครอบสถิตผู้ทรงคาถา
 
พระคาถามหาจักรพรรดิที่หลวงปู่ดู่แต่งขึ้นมานั้น นอกจากท่านจะได้ทำการอธิษฐานบารมีให้ผู้สวดได้รับพลังจากพระรัตนตรัย อย่างมหาศาลแล้ว ยังก่อให้เกิด "พุทธนิมิต" เป็นวิมานแก้วพระพุทธเจ้า มาครอบสถิตผู้สวดด้วย โดยมีลักษณะเป็นมณฑปแก้วจัตุรมุข ปรากฎฉัพพรรณรังสีหกประการสว่างไสว พร้อมด้วยโพธิสัตตราวุธ ทั้ง 4 ประการ ประจำอยู่ทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ พระมหามงกุฎ ตรีศูล จักรแก้ว และ พระขรรค์เพชร ทั้งหมดล้วนเป็นของคู่บุญบารมี ของพระศรีอารย์โพธิสัตว์ โดยมี "พระมหามงกุฎ" เป็นศิราภรณ์ที่ปี่ยมไปด้วยบุญญฤทธิ์ (หลวงปู่บุดดา ถาวโร พระอรหันต์ระดับจตุปฎิสัมภิทาญานได้เคยนำมาถวายหลวงปู่ดู่เป็นพุทธบูชาอีกองค์หนึ่งด้วย) 
ฏิบัติจึงมีพร้อมทั้งบุญฤทธิ์อิทธิฤทธิ์ เป็นพลังงานที่บริบูรณ์ สนับสนุน ให้การอธิษฐานจิต สัมฤทธิ์ผล ส่วนอาวุธที่เหลือทั้ง 3 ล้วนเป็นเทพศาสตราวุธชั้นสูง มีไว้เพื่อประดับบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ และเปี่ยมไปด้วยอิทธิฤทธิ์อย่างยิ่ง หากสวดเป็นประจำสามารถอธิษฐานให้เกิดเป็นองค์พระพุทธนิมิต ปางมหาจักรพรรดิได้ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ มีความศักสิทธิ์อย่างมาก ประดับด้วยครื่องทรงแห่งพระมหาจักรพรรดิ อย่างวิจิตรอลังการเปล่งรัศมีหลากสีด้วยแสงแห่งรัตนอัญมณี เรียกว่า "พระมหาวิษิตาภรณ์" มาครอบสถิตผู้ภาวนา บารมีของ หลวงปู่ดู่ที่ท่านน้อมนำอธิษฐานจิตจึงมีความศักสิทธิ์ป็นอย่างมาก เพราะท่านใช้บารมีทั้งหมดของท่านอัญเชิญกระแสบารมีแห่งพระรัตนตรัย และตั้งองค์พระพุทธนิมิตปางมหาจักรพรรดิบรรจุลงไปในวัตถุมงคลที่บารมีท่านมาประจุอีกด้วย
(เมื่อสวดครบตามกำลังวันแล้ว เท่ากับเราได้เก็บกักพลังงานอันมหาศาลยิ่ง เป็นพลังของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด พระมหาจักรพรรดิทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต หรือจะเรียกว่าเราสวดภายใต้การสนับสนุนส่งเสริมของทุกๆพระองค์นั่นเอง ถ่ายเทพลังบุญบารมีรวมเข้าสู่ภาชนะของผู้สวดภาวนา ให้บังเกิดสว่างไสวนับล้านๆๆๆ แรงเทียน  เป็นที่สังเกตของสรรพสัตว์ในมิติต่างๆอย่างกว้างไกล ระหว่างที่สวด   

หลวงตาม้าท่านอธิบายต่อไปว่า เมื่อเราน้อมจากหลวงปู่ มาที่ธาตุเรานั้น เสมือนเป็นการเก็บพลังงานไว้ในภาชนะ(ภาชนะของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและบารมีเก่าก่อนที่ได้สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติ)  หลังจากที่เราน้อมนำพลังงานของหลวงปู่มาที่เราแล้ว จากนั้นให้เราก็ส่งต่อพลังงานออกไปยังเป้าหมาย โดยการอธิษฐานจิต แล้วสวดสัพเพฯ  ส่งพลังงานออกไป พลังงานของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด พระมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ ไปสู่สรรพสัตว์ทั่วทั้ง 3 โลก และทุกตำแหน่งแห่งที่ในทุกๆมิติ หรือไปถึงบุคคลที่เราระบุ ส่งพลังงานไปช่วยเหลือ หรือครอบวิมานให้หรือกิจการงานต่างๆ ผู้เกี่ยวข้องทุกคน

พลังงานที่ส่งผ่านภาชนะเป็นพลังงานของครูบาอาจารย์ทุกๆ พระองค์ มีกำลังส่งกว้างไกล และทรงพลังยิ่งนัก มีคลื่นความถี่สูงกว่าการเดินทางของแสงอาทิตย์ อย่างชนิดเทียบกันไม่ได้ เช่นพอนึกเท่านั้นก็ไปทั่วแสนโกฏิจักรวาลนั่นเอง เพียงแต่ให้เราหมั่นทำทุกๆวัน หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด และพระมหาจักรพรรดิ ทุกๆพระองค์ที่หลวงปู่ดู่ได้อัญเชิญเอาไว้ล่วงหน้า ก็จะช่วยส่งเสริมการสวดภาวนาของเราเต็มที่  หลวงปู่จึงเตือนให้เราหมั่นทำ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน หากเราไม่ดำริ หลวงปู่ก็จะวางอุเบกขา หากเราทำตามคำแนะนำของท่านๆก็ยินดีช่วยเราเต็มที่ เช่นเดียวกับที่หลวงปู่เคยพูดให้ลูกศิษย์ได้ฟังว่า   ข้าจะคอยช่วย ศรัทธาข้าจริง นับถือข้าจริง แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก แกไม่คิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก ข้าอยู่ใกล้ ๆ แกจำไว้  พลังงาน บุญกุศล คลื่นแสง สี เสียง ที่หลวงปู่ได้สร้างไว้ยาวนาน 80 อสงไขย กับแสนมหากัป นับตั้งแต่หลวงปู่ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ยังอยู่ครบถ้วนพร้อมบริบูรณ์ สำหรับให้ลูกหลานได้น้อมนำพลังงานมาที่ภาชนะของตนเองในการสวดภาวนาและสัพเพฯ)

* รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านได้ที่หนังสือ มณีนพรัตน์จักรพรรดิเปิดโลก เรียบเรียงโดย โด่งวัดถ้ำ

http://www.watthummuangna.com/home/practice/