ปัจฉิมพจน์
ข้าพเจ้าผู้มีนามปรากฏว่า พระมหาวิลาศ ญาณวโร (บัดนี้เป็นพระราชคณะชั้นเทพ ที่พระเทพมุนี) ได้อุปสมบทในพระบวรพุทธศาสนา เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๓ โดยมีท่านพระธรรมปัญญาบดี (บัดนี้ เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) ชิ ตินธรเถระ เปรียญธรรม ๙ ประโยค วัดสามพระยา จังหวัดพระนคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุทธิวรคุณ วัดสุทธิวราราม จังหวัดพระนคร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูกัลยณวิสุทธิ์ วัดดอน จังหวัดพระนคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
นับแต่ได้อุปสมบทมา ก็ศึกษาพระปริยัติธรรมตามกำลังสติปัญญาสำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยค เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๓ ครั้นเสร็จธุระในด้านปริยัติศึกษาแล้ว ก็ใฝ่ใจในการปฏิบัติตามกำลังศรัทธา ได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ๒ ครั้ง โดยมีพระอาจารย์เข่ง อุตตรกโข เป็นพระวิปัสสนาจารย์ผู้บอกกรรมฐานครั้งแรก และพระอาจารย์ภัททันตะ อาสภะเถระ ธัมมะจริยะเป็นพระวิปัสสนาจารย์ผู้บอกกรรมฐานครั้งหลัง
เมื่อออกจากกรรมฐานแล้ว มีใจนึกถึงคุณแห่งพระบวรพุทธศาสนาซาบซึ้งนพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระ บรมศาสดาจารย์จอมมุนีเจ้า จึงคิดรจนาเรียบเรียงหนังสือ มุนีนาถทีปนี นี้ขึ้น โดยมากประมวลเอากถาถ้อยคำท่านบุรพจารย์ทั้งหลาย ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ในที่ต่างๆ เอามาปรุงแต่งเสียใหม่ เพื่อให้เข้าใจง่ายตามสมควรแก่รูปเรื่องในที่นี้ หวังใจให้เป็นสมบัติพระศาสนา เพื่อบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยสติปัญญาอันเล็กน้อยแห่งตน โดยเริ่มรจนาเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๖ และจบลงในวันนี้ที่ ๒๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๐๖ รวมเป็นเวลา ๗๗ วัน โดยปราศจากอุปทวันตรายใดๆ
ต่อจากนี้ไป ก็ได้แต่หวังใจอยู่ว่า หนังสือมุนีนาถทีปนีที่เรียบเรียงขึ้นนี้ คงจะมีสารัตถประโยชน์แก่ท่านสาธุชนผู้มีปัญญา ที่อุตส่าห์ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งจบลงในบัดนี้ บ้างตามสมควร
ข้าพเจ้า ผู้มีน้ำใจศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะให้พระสัทธรรมคำสั่งสอนแห่งองค์สมเด็จพระชินวรโลกนาถบรมศาสดาจารย์ ถาวรตั้งอยู่ตลอดกาลนาน จึงได้อุตสาหะรจเรียบเรียงเรื่อง มุนีนาถทีปนี นี้ขึ้น แล้วได้ประสบบุญกุศลซึ่งอำนวยประโยชน์ให้อันใดด้วยเดชะแห่งบุญกุศลนั้น ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงประสบแต่ความสุขสำราญจงทั่วกัน
อนึ่ง บรรดาพุทธมามกชนผู้เลื่อมใสพระไตรรัตน์ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มีเจตจำนงใคร่จะพ้นจากกองทุกข์ จงพ้นทุกข์ในอบายภูมิ และจงบรรลุถึงนิพพานในอนาคตกาลด้วยเถิด
ขอมโนรถความปรารถนาอันประเสริฐซึ่งเกิดจากน้ำใจอันงามของข้าพเจ้า จงสำเร็จผลตามที่ตั้งใจไว้นี้ทั้งหมด เพื่อความหมดจดไหบูลย์แห่งพระสัทธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดา จารย์ ตลอดกาลนิรันดรเทอญ
มุนีนาถทีปนี
จบบริบูรณ์
ปัฏฐนฐปนคาถา
หันทะ มะยัง ปัฏฐะนะ ฐะปะนะ คาถาโย ภะณามะ เสฯ
ยันทานิเม กะตัง ปุญญัง เตนาเนนุททิเสนะ จะ,
ขิปปัง สัจฉิกะเรยยาหัง ธัมเม โลกุตตะเร นะวะ,
บุญใดที่ข้าพเจ้าได้ทำในบัดนี้, เพราะบุญนั้นและการอุทิศแผ่ส่วนบุญนั้น,
ขอให้ข้าพเจ้าทำให้แจ้งโลกุตตรธรรมเก้าในทันที;
สะเจ ตาวะ อะภัพโพหัง สังสาเร ปะนะ สังสะรัง,
ถ้าข้าพเจ้าเป็นผู้อาภัพอยู่ ยังต้องท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสาร;
นิยะโต โพธิสัตโตวะ สัมพุทเธนะ วิยากะโต,
นาฏฐาระสะปิ อาภัพพะ ฐานานะ ปาปุเณยยะหัง,
ขอให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้
ได้รับพยากรณ์แต่พระพุทธเจ้าแล้ว ; ไม่ถึงฐานะแห่งความอาภัพ ๑๘ อย่าง ;
ปัญจะเวรานิ วัชเชยยัง ระเมยมัง สีละรักขะเน,
ปัญจะกาโม อะลัคโคหัง วัชเชยยัง กามะปังกะโต,
ข้าพเจ้าพึงเว้นจากเวรทั้งห้า; พึงยินดีในการรักษาศีล;
ไม่เกาะเกี่ยวในกามคุณทั้งห้า; พึงเว้นจากเปือกตมกล่าวคือกาม;
ทุททิฏฐิยา นะ ยุชเชยยัง สังยุชเชยยัง สุทิฏฐิยา,
ปาเป มิตเต นะ เสเวยยัง เสเวยยัง ปัณฑิเต สะทา,
ขอให้ข้าพเจ้าไม่พึงประกอบด้วยทิฏฐิชั่ว; พึงประกอบด้วยทิฏฐิที่ดีงาม;
ไม่พึงคบมิตรชั่ว; พึงคบแต่บัณฑิตทุกเมื่อ;
สัทธาสะติหิโรตตัปปา ตาปักขันติคุณากะโร,
อัปปะสัยโห วะ สัตตูหิ เหยยัง อะมันทะมุยหะโก,
ขอให้ข้าพเจ้าเป็นบ่อที่เกิดแห่งคุณ, คือ
ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ความเพียรและขันติ ;
พึงเป็นผู้ที่ศัตรูครอบงำไม่ได้; ไม่เป็นคนเขลา คนหลงงมงาย ;
สัพพายาปายุปาเยสุ เฉโก ธัมมัตถะโกวิโท,
เญยเย วัตตัตวะสัชชัง เม ญาณัง อะเฆวะ มาละโต,
ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ฉลาดในอุบายเแห่งความเสื่อมและความเจริญ ;
เป็นผู้เฉียบแหลมในอรรถและธรรม ;
ขอให้ญาณของข้าพเจ้าเป็นไปไม่ข้องขัดในธรรมที่ควรรู้ ;
ดุจลมพัดไปในอากาศ ฉะนั้น ;
ยา กาจิ กุสะลา มยาสา สุเขนะ สิชฌะตัง สะทา,
เอวัง วุตตา คุณา สัพเพ โหนตุ มัยหัง ภะเว ภะเว,
ความปรารถนาใดๆ ของข้าพเจ้าที่เป็นกุศล, ขอให้สำเร็จโดยง่ายทุกเมื่อ;
คุณที่ข้าพเจ้ากล่าวมาแล้วทั้งปวงนี้, จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกๆ ภพ;
ยะทา อุปปัชชะติ โลเก สัมพุทโธ โมกขะเทสะโก,
ตะทา มุตโต กุกัมเมหิ ลัทโธกาโส ภะเวยยะหัง,
เมื่อใด,
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้แสดงธรรมเครื่องพ้นทุกข์ เกิดขึ้นแล้วในโลก ;
เมื่อนั้น ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากกรรมอันชั่วช้าทั้งหลาย
เป็นผู้ได้โอกาสแห่งการบรรลุธรรม;
มะนุสสัตตัญจะ ลิงคัญจะ ปัพพัชชัญจะปะสัมปะทัง,
ละภิตวา เปสะโล สีลี ธาเรยยัง สัตถสาสะนัง,
ขอให้ข้าพเจ้าพึงได้ความเป็นมนุษย์; ได้เพศบริสุทธิ์;
ได้บรรพชา อุปสมบทแล้ว ; เป็นคนรักศีล; มีศีล;
ทรงไว้ซึ่งพระศาสนาของพระศาสดา;
สุขะปะฏิปะโท ขิปปา ภิญโญ สัจฉิกะเรยยะหัง
อะระหัตตัปผะลัง อัคคัง วิชชาทิคุณะลังกะตัง
ขอให้เป็นผู้มีการปฏิบัติโดยสะดวก, ตรัสรู้ได้พลัน ;
กระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตตผลอันเลิศ, อันประดับด้วยธรรม มีวิชชา เป็นต้น;
ยะทิ นุปปัชชะติ พุทโธ กัมมัง ปะริปูรัญจะ เม,
เอวัง สันโต ละเภยยาหัง ปัจเจกะโพธิมุตตะมัน ติ.
ถ้าหากพระพุทธเจ้าไม่บังเกิดขึ้น ,
แต่กุศลกรรมของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมแล้ว ;
เมื่อเป็นเช่นนั้น
ขอให้ข้าพเจ้าพึงได้ญาณเป็นเครื่องรู้เฉพาะตนอันสูงสุดเทอญ.