เว็บพุทธภูมิ: พุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ การบำเพ็ญบารมี



ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธภูมิทั้งหลายมาแนะนำตัวและแลกเปลี่ยนการบำเพ็ญบารมีได้ที่นี้ครับ  (อ่าน 218718 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 13 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ june

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 13
  • ความตายแขนคอซุบาดย่าง
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีครับโพธิสัตว์ทุกท่าน
ผมชื่อ ตี้ เรียนมหาวิทยาลัยขอนแก่นครับ ผมเคยอ่านพุทธประวัติตั้งแต่12 ขวบ น้ำตาไหลปิติ ผมปรารถนาเป็นสายปัญญาธิกะมาเนิ่นนานแล้ว ได้ศึกษาข้อปฏิบัติสายหลวงพ่อฤาษี และอยู่ภาวนากับสายหลวงปู่ชา  พอเป็นที่พึ่งตัวได้ ตอนนี้มีโอกาสสร้างบุญบารมีและชักชวนบริวารร่วมบุญกับพระกรรมฐานมากอยู่ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ โมทนานะครับ จูนก็อยู่ที่ขอนแก่นเหมือนกันครับ

ออฟไลน์ Kuekkonk

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 13
    • ดูรายละเอียด
จะมีใครที่ยอมสละราชบัลลังลูกและภรรยา เข้าป่า นอนวันละ 4 ชั่วโมง เดินวันละเฉลี่ย 16 กิโลเมตร เดินชี้ทางให้กับทุกคนไม่ว่ายากดีมีจนก็สอน ไม่หวังอะไร ไม่เบียดเบียน ไม่มีโทษ ผมขอกราบผู้น้ันด้วยความเคารพเหนือหัว

ออฟไลน์ Attawat_Rx

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
จะมีใครที่ยอมสละราชบัลลังลูกและภรรยา เข้าป่า นอนวันละ 4 ชั่วโมง เดินวันละเฉลี่ย 16 กิโลเมตร เดินชี้ทางให้กับทุกคนไม่ว่ายากดีมีจนก็สอน ไม่หวังอะไร ไม่เบียดเบียน ไม่มีโทษ ผมขอกราบผู้น้ันด้วยความเคารพเหนือหัว

สาธุ....แต่เอ...แบบนี้จะสุดโต่งไปไหมครับ เพราะการอยู่บ้านสงเคราะห์บุตร ภรรยา พ่อแม่ และญาติพี่น้อง นี่มันต้องมาก่อนมิใช่หรือครับ ไม่รู้นะครับเท่าที่ทราบลำดับการสงเคราะห์นี่พุทธภูมิจะลำดับความสำคัญก่อนหลังในการสงเคราห์คือ

๑. ตนเอง (เอาตนเองให้รอดหรือพอรอดก่อน ไม่งั้นจะเป็นเตี้ยอุ่มค่อม มันเสียเวลาครับ)
๒. ญาติ ได้แก่ บิดามารดา พี่น้อง ภรรยา บุตร ครูอาจารย์ พระพุทธศาสนา
๓. คนใกล้ชิด เช่น เพื่อน
๔. คนทั้่วไป
๕. สังคมทั้งสังคม (ทั้งโลก)
๖. สงเคราะห์ ๓ โลก...

โดยการสงเคราะห์นี้จะต้องลำดับก่อนหลัง ตามกำลังควาสามารถ และบารมีหรือบุญในขณะนั้น เขาจะไม่ทำเกินตัว เพราะการทำเกินตัวนั้นสุดท้ายมันได้ไม่คุ้มเสีย เป็นการทำบารมีให้พร่องไปเปล่าๆ (เกินไปก็คือไม่เต็ม ขาดไปก็คือไม่เต็ม)

เรื่องนี้จะเล่าให้ละเอียดในภายหลังนะครับ

ธรรมมะสวัสดี


ออฟไลน์ Kuekkonk

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 13
    • ดูรายละเอียด
อ้างถึง
จะมีใครที่ยอมสละราชบัลลังลูกและภรรยา เข้าป่า นอนวันละ 4 ชั่วโมง เดินวันละเฉลี่ย 16 กิโลเมตร เดินชี้ทางให้กับทุกคนไม่ว่ายากดีมีจนก็สอน ไม่หวังอะไร ไม่เบียดเบียน ไม่มีโทษ ผมขอกราบผู้น้ันด้วยความเคารพเหนือหัว

สาธุ....แต่เอ...แบบนี้จะสุดโต่งไปไหมครับ เพราะการอยู่บ้านสงเคราะห์บุตร ภรรยา พ่อแม่ และญาติพี่น้อง นี่มันต้องมาก่อนมิใช่หรือครับ ไม่รู้นะครับเท่าที่ทราบลำดับการสงเคราะห์นี่พุทธภูมิจะลำดับความสำคัญก่อนหลังในการสงเคราห์คือ

๑. ตนเอง (เอาตนเองให้รอดหรือพอรอดก่อน ไม่งั้นจะเป็นเตี้ยอุ่มค่อม มันเสียเวลาครับ)
๒. ญาติ ได้แก่ บิดามารดา พี่น้อง ภรรยา บุตร ครูอาจารย์ พระพุทธศาสนา
๓. คนใกล้ชิด เช่น เพื่อน
๔. คนทั้่วไป
๕. สังคมทั้งสังคม (ทั้งโลก)
๖. สงเคราะห์ ๓ โลก...

โดยการสงเคราะห์นี้จะต้องลำดับก่อนหลัง ตามกำลังควาสามารถ และบารมีหรือบุญในขณะนั้น เขาจะไม่ทำเกินตัว เพราะการทำเกินตัวนั้นสุดท้ายมันได้ไม่คุ้มเสีย เป็นการทำบารมีให้พร่องไปเปล่าๆ (เกินไปก็คือไม่เต็ม ขาดไปก็คือไม่เต็ม)

เรื่องนี้จะเล่าให้ละเอียดในภายหลังนะครับ

ธรรมมะสวัสดี

ผมก็มีความรู้น้อยครับไม่กล้าแนะนำอะไร แต่มีข้อที่จะเสนอแนะตามภูมิความรู้ผมดังนี้ครับ
ลำดับการที่จะสงเคราะห์ใครนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่สำคัญคือเราต้องสร้างบารมีให้เต็ม และปฏิบัติโพธิปักขิยธรรม ให้พร้อม การสร้างบารมีให้เต็มนั้นมันสร้างที่ใจ ไม่ได้ที่ข้างนอก โดยประมาณดังนี้
1. ทานบารมี คือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น ทั้งสิงของตัวเอง ร่างกาย ตัวเอง ขัน 5 ของตัวเอง แม้แต่บุญของตัวเอง ความสบาย ต่าางๆ
2. ศีลบารมี คือ รักษาปกติของจิต ไม่ให้เบียดเบียนใคร รวมทั้งตัวเอง ด้วยชีวิต
3. เนกขัมมบารมี คือ รักความสันโดษปลอดโปล่งทางจิต (ถ้าบวช จะรู้ว่าเบาสบายปลอดโปร่ง ไม่มีภาระต้องคิดต้องทำ) และกาย สำรวม ทำให้จิตเบา เพื่อขัดเกลาความอยากและกิเลสในจิตให้เบาบาง
4. ปัญญา คือ ฝึกจิตให้เห็นตรง เห็นไตรลักษณ์ และ อริยสัจ คือ มีเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ให้เห็นได้บ่อยๆ ทุกอย่างเป็นทุกและหาเหตุของทุกตัวเองและหาวิธิแก้ไข เผลอลืมน้อยที่สุด (มันจะมาควบคู่กับสติ)
5. สัจจะ คือ ต้องมีความจริงใจของจิตให้กับตัวเอง หากกล่าวออกมาหรือตั้งใจ  ต้องจริง ไม่โลเล
6. อฐิษฐาน คือ ต้องตั้งมั่น ไม่วอกแวก เพราะสัจจะกับอฐิษฐานจะมาใกล้กัน อยากตั้งใจแล้วต้องทำให้ได้แม้ด้วยชีวิต
7. ขันติ คือ อดทน จากในใจไม่ย่อท้อ อยากได้แต่ไม่ได้ ไม่อยากได้แต่ต้องได้ เพื่อให้ธรรมคงอยู่
8. วิริยะ คือ เพียร 4
9. เมตตา คือ ปรารถนาให้คนอื่นมีความสุข แม้เป็นสัตรู ไม่คิดเบียดเบียนแม้ด้วยชีวิต
10. อุเบกขา คือ วางเฉย ทั้งตัวเองและรอบข้าง หากช่วยไม่ได้ กรุณาไม่ได้ให้อุเบกขา ตัดใจหากเรื่องนั้นเป็นมาร กิเลสในใจ อย่าให้มีนิวรเข้ามาในจิต
    ดังนั้นเป้าหมาายอยู่ที่สร้างบารมี ไม่ได้แบ่งลำดับการสงเคราะห์ เพราะมันจะทำให้มีการแบ่งวรรณะ ทำให้เกิดทิฏฐิ ครับ

ออฟไลน์ Kuekkonk

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 13
    • ดูรายละเอียด
อยากให้เข้ามาคุยบ่อยๆ เยอะๆ จะได้สร้างกำลังใจให้คนอื่นด้วยครับ

ออฟไลน์ Heroics

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 7
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีทุกคนนะครับ ;D

ผมเคยได้ยินหลวงตาท่านบอกว่า"เราต้องภูมิใจที่เป็นหน่อฯ"
คำพูดท่านมีความหมายลึกซึ้งมาก :)



ออฟไลน์ Webmaster

  • Administrator
  • สมาชิก
  • *****
  • กระทู้: 404
    • ดูรายละเอียด
สวัสดีทุกคนนะครับ ;D

ผมเคยได้ยินหลวงตาท่านบอกว่า"เราต้องภูมิใจที่เป็นหน่อฯ"
คำพูดท่านมีความหมายลึกซึ้งมาก :)




โมทนาด้วยครับ ถ้าไม่มีหน่อ ก็
จะไม่มีผลในอณาคต ครับผม สาธุ

เชิญชวนหน่อพุทธภูมิทั้งหลายมาแนะนำตัวและแลกเปลี่ยน
แนวทางการบำเพ็ญบารมีของแต่ละท่านในกระทู้นี้

 
ส่วนตัวผมชื่อ "นิก" ปราถนาพุทธภูมิ รู้ระลึกตนว่าเป็นประเภท ศรัทธาธิกะ
ตั้งแต่ตอนเด็กๆ จากนั้นก็ปฎิบัติธรรม สร้างบารมีสืบต่อมาเรื่อย

โดยตามรอยการสร้างบารมีสายโพธิญาณ
อันมีครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพและมีบุญสัมพันธ์เป็นแนวทาง
แนวการปฎิบัติของผมนั้น ผมเรียนกรรมฐานสายพุทธภูมิ
มาจากครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์
และพระอริยะ เมตตาชี้แนะอบรมสั่งสอน

"อิมินา ปุญญะกัมเมนะ พุทโธ โหมิ อะนาคะเต กาเล"
จะมั่นคงในปณิธานจนกว่าจะถึงซึ่งพระโพธิญาณ . . .

ยินดีที่ได้รู้จักครับ . . .

สวัสดีครับ ทุกท่าน ชื่อโอ๋นะครับ
พึ่งทราบว่าตัวเองเป็นพุทธภูมิ เพราะ เค้าบอกเร็วๆนี้ แต่ก้ทำเรื่อยๆ กิเลสเยอะเหลือเกิน ครับเน้นรักษาอารมณ์ แล้วสวดจักพรรดิครับ
คิดเห็น ว่าทำเริ่มจากง่ายๆ ค่อยๆทำไป เรื่อยๆ อันไหนทำแล้ววางอารมณ์สบายๆ หยิบยกมาทำ เรื่อยๆ บ่อย กำลังใจจะเพิ่มเองครับ ดูอย่างหลวงปู่ดู่ ท่านอยู่ที่วัดก็ทำได้ เพียงแค่ค่อยทำนะครับ โมทนากับทุกท่านด้วยครับ พยายามเกาะนิพพานไว้ครับ ไม่ต้องกลัวเข้าก่อนครับ ติดอธิฐานยังอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว
ที่สำคัญครับ หากพุทธภูมิไม่รักพระนิพพาน แล้วใครจะรักครับ อีกอย่างครับจริตไม่เหมือนกัน หยิบธรรมมะสัก 1ข้อมา อธฐานบารมี แล้ว พยายามรักษาให้ได้ ถ้าข้อนี้เต็ม อีก 9ข้อที่เหลือก็เต็ม บารมี 10ทัศน์ไม่ไปไหนครับ ผิดถูกอย่างไรชี้แนะด้วยครับ ยังใหม่อยู่  สุดท้ายนี้โมทนา กับพุทธภูมิทุกท่านด้วยครับ
การตั้งปรารถนา เป็นเรื่องดี เป็นสิ่งที่ยากยิ่ง....เพียงแต่ต้องค้นหาจุดที่เราทำได้ และกำลังใจเราสามารถ ทรงตัวและเพิ่มพูนได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน

ออฟไลน์ Kuekkonk

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 13
    • ดูรายละเอียด
ผมขอเสนอ พระที่ปฏิบัติดีและน่าเข้าไปกราบสร้างบารมีครับ(เท่าที่ผมทราบในความคิดผมครับ)
1.หลวงพ่อกล้วย (วัดป่าธรรมอุทยาน ขอนแก่น) หลวงพ่อท่านเก่งมากใจดีเมตตาสูง และพ้นแล้ว วัดน่าอยู่ครับ ไปค้างได้เลย และเข้าหาได้ง่ายด้วย
2. หลวงปู่เก๋วัดปากน้ำ นนทบุรี
ถ้าใครมีอีกช่วยบอกด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Arthamaat

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 29
  • "พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
    • ดูรายละเอียด
ผมมีความรู้สึกว่า  การสร้างบารมีในยุคนี้ต้องใช้ปัญญาอย่างมาก   คิดแล้วไตร่ตรองให้ดี  การกระทำบางอย่างเป็นผลดีแก่เรา  แต่ก็เป็นผลเสียอย่างมาก เพราะสังคมไม่เอื้ออำนวยให้สร้างบารมี  อย่างที่พุทธภูมิหลายๆท่านในกาลก่อนได้กระทำให้เป็นประจักษ์ไว้  บริจาคลูกเมีย ถ้าทำในสมัยนี้  บอกได้เลยว่า  จะทำให้สังคมยิ่งเสื่อมหนักลงกว่าเดิมอีก    พี่ๆ น้อง ๆ รู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่าครับ

ออฟไลน์ Webmaster

  • Administrator
  • สมาชิก
  • *****
  • กระทู้: 404
    • ดูรายละเอียด
ผมมีความรู้สึกว่า  การสร้างบารมีในยุคนี้ต้องใช้ปัญญาอย่างมาก   คิดแล้วไตร่ตรองให้ดี  การกระทำบางอย่างเป็นผลดีแก่เรา  แต่ก็เป็นผลเสียอย่างมาก เพราะสังคมไม่เอื้ออำนวยให้สร้างบารมี  อย่างที่พุทธภูมิหลายๆท่านในกาลก่อนได้กระทำให้เป็นประจักษ์ไว้  บริจาคลูกเมีย ถ้าทำในสมัยนี้  บอกได้เลยว่า  จะทำให้สังคมยิ่งเสื่อมหนักลงกว่าเดิมอีก    พี่ๆ น้อง ๆ รู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่าครับ

ยุคนี้ต้องปรับตัวแหละครับ กับการสร้างบารมีในยุคนี้
ยุคนี้ถ้ากำลังใจดีสามารถเก็บบารมีได้มหาศาลเลยละครับ


ออฟไลน์ phanlop

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
ขอแนะนำตัวครับ
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มีนาคม 31, 2012, 12:35:24 PM »
ผมชื่อ พัลลภ ปรารถนาพุทธภูมิประเภทปัญญาธิกะ
สมัยยังบวชอยู่ไปกัมมัฏฐานที่ภูพานได้ระลึกชาติไปในสมัยพุทธกาล สมัยนั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จมาโปรด
พระเจ้าพิมพิสาร สมัยนั้นผมได้เป็นทหารราชองครักษ์ยืนเฝ้าทางเข้ามณฑลพิธีครันแลเห็นพระพุทธองค์เสด็จ
มาตัวนี้สั่นไปหมด พระพุทธองค์เทศนาเรื่องพรหมวิหาร ๔ เมื่อพระพุทธองค์เทศนาจบได้เ้ข้าไปกราบถวายบัง
คมกับพ่อค้าชาวโกสัมพี ๒ คน พ่อค้าชาวโกสัมพี ๒ คนนี้ปรารถนาพุทธภูมิเช่นกันได้กล่าวว่า "ข้าแต่พระพุทธ
องค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ทำผิดอาญาแผ่นดินแล้วด้วยหวังจะได้กราบนมัสการพระพุทธองค์ใกล้ๆ บัดนี้ข้าพระ
พุทธองค์ได้สิ่งสมความปรารถนาแล้วในกาลเบื้องหน้าขอข้าพระองค์ได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นพระองค์ด้วยเถิด"
หลังจากนั้นถูกจับขังคุกอยู่ ๑ เดือนเพื่อรอรับอาญาแต่พระเจ้าพิมพิสารทรงยกโทษให้ และทรงตรัสว่าพ่อทำสิ่ง
ที่เป็นมงคลแก่โลกแล้ว แม้ในปัจจุบันก็ยังปรารถนาพุทธภูมิทุกทิวาราตรีโดยบริกรรม พุทโธ ๆทุกลมหายใจเข้าออก
และ บางครั้งก็บริกรรม อเวราๆ ทุกลมหายใจเข้าออกเช่นเดียวกัน ท่านทั้งหลายผู้ปรารถนาพุทธภูมิมีธรรมบทใดแนะ
นำข้าพเจ้าบ้างโปรดสงเคราะห์ธรรมนั้นด้วยเถิด

ออฟไลน์ Phattaraphol.nus๛

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด
ผมปรารถนาปัญญาธิกะบารมี ขอให้ทุกท่านสำเร็จสมหวังด้วยเทอญ อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ           [/color]         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2014, 10:51:52 AM โดย Phattaraphol.outlook »

ออฟไลน์ viriyathika

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 3
    • ดูรายละเอียด
ผมเป็นผู้ปรารถนาพระโพธิญาณประเภทวิริยะธิกะ ( ตามนิมิตในความฝันที่พระรูปนึงท่านบอกผม ) แต่ผมเป็นวิริยะธิกะที่ไม่ค่อยเหมือนที่ผู้รู้หลายท่านชื่นชอบซะเท่าไหร่ และก็ทำตัวไม่ค่อยเหมาะสมแต่ก็พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะพอทำได้ เพราะบางอย่างที่ผมกำลังเผชิญอยู่ก็เกิดจากวิบากกรรมเก่าที่ผมเคยทำมาอ่ะครับซึ่งมีทั้งดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ phanlop

  • สมาชิก
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
เรียนผู้ปรารถนาพุทธภูมิทุกท่าน ข้าพเจ้าสร้างกลุ่ม พุทธภูมิ ไว้บน facebook เพื่อการรวมตัวกันเพื่อทำประโยชน์แก่มวลมนุษย์และแลกเปลี่ยนข้ออรรถธรรมและธรรมปฏิปทาเพื่อเป็นประโยชน์แก่กาลเบื้องหน้า หากท่านใดมีความประสงค์และเตจำนงเหมือนกันสามารถเข้าไปค้นชื่อ พุทธภูมิ แล้ว add กลุ่มได้เลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 31, 2012, 03:45:37 PM โดย phanlop »